จริยธรรมว่าด้วยการรักษาความลับ การรักษาข้อมูล และการใช้ข้อมูลภายใน

จริยธรรมว่าด้วยการรักษาความลับ การรักษาข้อมูล และการใช้ข้อมูลภายใน

คณะกรรมการบริษัท ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส เป็นธรรม และปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีนโยบายและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรักษาความลับ การรักษาข้อมูล และการใช้ข้อมูลภายใน ดังนี้

  1. กำหนดให้บริษัทฯ ให้ความรู้และความเข้าใจแก่ กรรมการ ผู้บริหารของบริษัทฯ (ซึ่งได้รวมถึงคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของตน) เกี่ยวกับการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ต่อ ก.ล.ต. มาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยกำหนดให้แจ้งต่อเลขานุการบริษัททราบทุกครั้ง เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป รวมทั้งได้แจ้งบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว
  2. กำหนดให้กรรมการ กรรมการบริหาร และผู้บริหาร (ตามนิยามของ ก.ล.ต.) มีหน้าที่ในการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทฯ (GRAMMY) ซึ่งรวมถึงจำนวนหลักทรัพย์ที่ถือครองของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง ตามมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ และกำหนดให้เลขานุการบริษัทสรุปรายงานการถือครองหลักทรัพย์ และการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ฯ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบเป็นรายไตรมาส
  3. กำหนดในสัญญาจ้างแรงงาน ข้อบังคับบริษัทฯ เกี่ยวกับการทำงาน ข้อพึงปฏิบัติของพนักงานต่อบริษัทฯ และถือเป็นจริยธรรมต่อพนักงาน ในการระมัดระวังรักษาข้อมูลให้เป็นความลับ ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในบริษัทฯ หรือนำข้อมูลภายในหรือสารสนเทศที่มีสาระสำคัญซึ่งได้รับระหว่างการปฏิบัติงานในบริษัทฯ ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ไปแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบหรือเปิดเผยกับบุคคลภายนอกเพื่อประโยชน์ส่วนตนและผู้เกี่ยวข้อง หรือทำให้ประโยชน์ของบริษัทฯ ลดลง หรือกระทำการอันก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  4. ให้ความสำคัญในการรักษาสารสนเทศที่เป็นความลับของลูกค้าอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ โดยไม่นำสารสนเทศดังกล่าวมาใช้เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและผู้เกี่ยวข้อง เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
  5. ในกรณีที่บุคคลภายนอก มีส่วนร่วมในการทำงานเฉพาะกิจที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะและอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งงานนั้นๆ เข้าข่ายการเก็บรักษาข้อมูลภายใน อันอาจมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ บุคคลภายนอกเหล่านั้นจะต้องทำสัญญาเก็บรักษาข้อมูลความลับ (Confidentiality Agreement) ไว้กับบริษัทฯ จนกว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลต่อตลท. และ ก.ล.ต.
  6. มีการกำหนดจริยธรรมว่าด้วยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบสารสนเทศ และ/หรือป้องกันการเข้าถึงข้อมูลบริษัทฯ จากบุคคลภายนอก และการกำหนดระดับการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทฯ ให้กับพนักงานในระดับต่างๆ ให้เหมาะสมกับความรับผิดชอบ
  7. บริษัทฯ จะใช้บทลงโทษตามระเบียบของบริษัทฯ หากพบว่า ผู้บริหาร หรือพนักงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ข้อมูลภายในหรือมีความประพฤติที่ส่อไปในทางที่จะทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสื่อมเสียและเสียหาย
  8. ในกรณีที่มีการใช้ข้อมูลภายในหรือมีความประพฤติที่ส่อไปในทางที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสื่อมเสียและความเสียหาย ฝ่ายบริหารจะจัดทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการบริษัททราบ เป็นประจำทุกปี

โดยในปี 2566 บริษัทฯ ไม่พบรายงานว่า กรรมการและผู้บริหารมีการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน