"บอร์ดแกรมมี่" ไฟเขียวเพิ่มทุนลุยทีวีดิจิทัล รุกต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจเดิม ขึ้นแท่น "ผู้นำสื่อครบวงจร" ที่สุดในเมืองไทย
นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 ที่ประชุมกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ จำนวน 106,052,989 หุ้น ในราคาหุ้นละ 10.00 บาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินสดในครั้งนี้ 1,060,529,890 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปลงทุนในStrategic Investment อันได้แก่ธุรกิจทีวีดิจิทัลที่จะมาช่วยต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิมที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วให้ยิ่งมีศักยภาพมากขึ้น เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น "ผู้นำสื่อครบวงจร (King of Media&Contents)" ที่มีความครบถ้วนและสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย
"เรามีแผนเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัลที่กำลังจะเกิดขึ้นประมาณไตรมาส 3 นี้ จำนวน 3 ช่อง ได้แก่ ช่องวาไรตี้ความคมชัดสูง (HD), ช่องวาไรตี้มาตรฐานทั่วไป (SD) และช่องรายการเด็ก โดยขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในทุกๆ ด้านที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจทีวีดิจิทัล" นางสาวบุษบา กล่าว
ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจทีวีดิจิทัลจะมีการแข่งขันรุนแรง ผู้สนใจทำธุรกิจทีวีดิจิทัลจะต้องมี 3 องค์ประกอบหลักจึงจะประสบความสำเร็จ ได้แก่ คอนเทนต์ บุคคลากร และเงินทุน โดยขณะนี้แกรมมี่มีครบถ้วนทั้ง 3 องค์ประกอบข้างต้น ได้แก่
1.คอนเทนต์ซึ่งบริษัทฯ เป็นเจ้าของและเป็นผู้นำคอนเทนต์ โปรวายเดอร์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยทำให้มีจุดแข็งในการทำธุรกิจนี้ อาทิเช่น คอนเทนต์ด้านภาพยนตร์อย่างเรื่อง"พี่มากพระโขนง" ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่เขย่าวงการหนังไทยทำรายได้ทะลุพันล้านบาท คอนเทนต์ด้านทีวีละครซิทคอมอย่างเรื่อง "เป็นต่อ" ที่เคยออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ได้รับความนิยมสูงจนหยิบมาสร้างภาคต่อชื่อว่า "เป็นต่อขั้นเทพ" ออกอากาศทางช่อง ONE ซึ่งทำเรตติ้งดีอยู่ในขณะนี้ หรือแม้แต่ล่าสุดคอนเทนต์ด้านทีวีละคร ซีรี่ส์อย่างเรื่อง "ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น" ออกอากาศทางช่อง ONE ก็มีกระแสตอบรับถล่มทลาย ทั้งด้านเจ้าของสินค้าสนใจซื้อเวลาโฆษณาจำนวนมาก และด้านยอดผู้ชมเกินความคาดหมายโดยเฉพาะช่องทางยูทูบมียอดผู้ชมทะลุ 38 ล้านครั้ง ไม่นับการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงนับหมื่นเพลงและศิลปินในสังกัดกว่า 300 ราย
2.บุคลากร ซึ่งบริษัทฯ เป็นศูนย์รวมมืออาชีพทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่สะสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ตลอดจน "ความน่าเชื่อถือ" เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ได้รับรางวัล SET AWARD 2012 สาขาบริษัทจดทะเบียนด้านการรายงานบรรษัทภิบาลดีเยี่ยม (Top Corporate Governance Report Awards) เนื่องจากบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตามแนวทางปฏิบัติที่เป็นสากล
และ 3.เงินทุน ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการวางแผนบริหารจัดการไว้อย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด โดยเตรียมวงเงินสำรองไว้อย่างเพียงพอ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยการระดมทุน 3 แหล่งหลักๆ ดังนี้ การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น วงเงินกู้จากสถาบันทางการเงิน และการขายหุ้นที่ถืออยู่ในบมจ.มติชน (MATI) และบมจ.โพสต์ พับลิชชิ่ง (POST)ส่งผลให้บริษัทฯ มีเม็ดเงินที่สามารถไปลงทุนได้เพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรทั้งคนไทยและต่างชาติหลายรายสนใจจะเข้าร่วมทุน เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสและเชื่อมั่นในศักยภาพของแกรมมี่โดยบริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้
"เราเชื่อมั่นว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างโครงสร้างเงินทุนของบริษัทฯ ให้ยิ่งมีความแข็งแกร่งรองรับแผนพัฒนาเชิงรุกสู่ธุรกิจใหม่ๆ ตลอดเวลาซึ่งธุรกิจทีวีดิจิทัลก็ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจใหม่ที่แกรมมี่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจเดิม ก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งในธุรกิจสื่อบันเทิงครบวงจรของประเทศ ก่อให้เกิดการสร้างรายได้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน" นางสาวบุษบา กล่าว