GRAMMY คาดรายได้ปี 65 โตกว่าปีก่อน หลังโควิดคลาย กลับมาจัดอีเว้นท์ได้ ตั้งเป้า 19 งาน
GRAMMY คาดรายได้ปี 65 โตกว่าปีก่อน หลังโควิดคลาย วางเป้าปีนี้เห็นอีเว้นท์ 18-19 งาน ด้านธุรกิจเพลงทั้งปีใช้งบลงทุน 300-500 ลบ. วางธุรกิจ MUSIC NFT เป็นรายได้ใหม่ปีนี้ เบื้องต้นตั้งเป้าหลัก 10 ล้านบาท
นายธนากร มนูญผล รองกรรมการผู้อำนวยการ หน่วยงาน Group Investment บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จํากัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทคาดรายได้ปี 65 จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีรายได้จากการดำเนินงานปกติ ซึ่งไม่รวมกับรายการพิเศษ จาก 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งกลุ่ม GMM GRAMMY ที่ทำธุรกิจเพลง , โอช้อปปิ้ง ธุรกิจ HOME SHOPPING , GMM Z ธุรกิจ SATELLITE TV PLATFORM และ GDH ธุรกิจภาพยนตร์ แม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงมีอยู่ แต่ผลกระทบไม่ได้มากเหมือนช่วงแรกและในปีก่อนๆ ขณะเดียวกันภาครัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจบริหารจัดการศิลปินและธุรกิจจัดงานคอนเสิร์ตและอีเว้นท์กลับมามากขึ้น
ซึ่งในปีนี้คาดว่าบริษัทจะสามารถกลับมาจัดแสดงเทศกาลและคอนเสิร์ต (Showbiz Plan) ในกลุ่มธุรกิจเพลงได้ โดยบริษัทวางเป้าหมายจะเปิดตัวทั้งสิ้นประมาณ 18-19 งาน เริ่มตั้งแต่ช่วงเม.ย.65 เป็นต้นไป ด้านงานจ้าง งานแสดงต่างๆ จะเริ่มกลับมาจัด หรือโรดโชว์ได้มากขึ้น ซึ่งจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญในปีนี้ ด้านบริษัทในเครืออย่าง GDH 559 ปีนี้คาดว่าจะจัดฉายในโรงภาพยนต์รวมทั้งสิ้น 5 เรื่อง ซึ่งมากกว่าปีก่อนที่มีเพียง 1 เรื่อง รายได้จะกลับมาเติบโตเช่นกัน
ด้านธุรกิจ MUSIC Non-Fungible Token (NFT) จะเป็นรายได้ใหม่เข้าที่เข้ามาในปีนี้ อาจเห็นเม็ดเงินรายได้หลักสิบล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะเริ่มต้นไม่มากแต่ภาพรวมธุรกิจ NFT ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในอนาคต ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มศิลปินและนักสะสม สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลงาน และให้การสนับสนุนสินค้าต่างๆ ของศิลปิน บริษัทคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคต ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ ได้จับมือกับ 4 แพลตฟอร์ม อย่าง Bitkub, Coral, East NFT และ Zipmex ไปแล้วช่วงปลายปี 64 โดย ก.พ. 65 ที่ผ่านมาได้มีผลงาน NFT จากศิลปิน getsunova ร่วมกับ Zipmex ให้เห็นแล้ว
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีบริษัทในเครืออย่าง บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE สามารถสร้างการเติบโตได้ดี ซึ่ง GRAMMY ถือหุ้นทางตรง-อ้อมประมาณ 27% จะช่วยหนุนให้บริษัทฯ มีกำไรเข้ามาเพิ่มด้วยเช่นกัน
สำหรับเงินลงทุนในปี 65 บริษัทคาดจะลงทุน 300-500 ล้านบาท สำหรับธุรกิจหลักในการผลิตของธุรกิจเพลง GMM GRAMMY ทั้งการสร้างคอนเทนต์ , ศิลปิน , ผลงานใหม่ ซึ่งการใช้งบต้องดูภาวะตลาดและเศรฐกิจประกอบการลงทุน ส่วนบริษัทจากกลุ่มธุรกิจ โดยภาพรวมบริษัทฯ บริษัทยังคงจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นระดับ 43% และมุ่งเน้นพัฒนาผลงานเพลงคุณภาพ พัฒนาศิลปินใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเข้ามารองรับความต้องการของตลาด นายธนากร กล่าว
Attachments